สวัสดีครับ เนื่องด้วยกระแสของแท็บเล็ตที่ไม่มีท่าทีจะลดถอยลงไปเลยแม้แต่น้อย มีแต่กระแสที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นยิ่งกว่าเดินเสียอีก เพราะแท็บเล็ตในปัจจุบันมีสเปคเครื่องที่น่าสนใจ พร้อมกับให้การตอบสนองที่ลื่นไหลกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด และยังมีวัสดุที่แข็งแรงมากขึ้น แต่มีน้ำหนักที่เบา นอกจาก จะมีสเปคเครื่องและการตอบสนองที่ดีแล้ว แท็บเล็ตในปัจจุบัน ยังมีราคาที่ถูกมากอีกด้วย โดยผู้ผลิตหลายๆ ยี่ห้อ ต่างก็กำลังมุ่งแข่งขันกันในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และแท็บเล็ตราคาถูกหนึ่งในนั้นก็คือ Asus Google Nexus 7 โดยทาง Google จับมือ กับ Asus ช่วยกันผลิตขึ้นมา และเปิดราคาเริ่มต้นมาที่ประมาณ 6,000 บาท เท่านั้น (199$ สำหรับรุ่นความจุ 8GB) จึงทำให้ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้คนทั่วโลก ไม่เพียงแค่ราคาเท่านั้นที่น่าสนใจ เพราะเจ้า Asus Google Nexus 7 ยังเป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.1 (Jelly Bean) และยังมาพร้อมกับซีพียูระดับ Quad-Core อีกด้วย และยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ที่เคาะเปิดราคามาเพียง 8,900 บาท เท่านั้น ซึ่ง Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ก็มาพร้อมสเปคที่พร้อมจะตอบสนองการใช้งานในทุกๆ ด้านเช่นเดียว และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมพร้อมกันดีกว่า ว่าแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นนี้ เครื่องไหนจะมีฟีเจอร์ไหนที่เป็นไฮไลท์กันบ้าง และแต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้งานแบบไหน ไปชมพร้อมกันได้เลยครับ
1. เปรียบเทียบสเปคเครื่อง Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi)

จากตาราง จะเห็นได้ว่า Asus Google Nexus 7 จะมีคุณสมบัติหลายๆ อย่างที่ดีกว่า เช่น ซีพียูระดับ Quad-Core ที่มีความเร็วในการประมวลผลที่ 1.3GHz พร้อมด้วยการ์ดจอ nViadia ULP GeForce แถมยังเปิดราคามาได้ถูกกว่า แต่ในด้านของ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่ได้เปรียบอยู่บ้าง เช่น กล้องด้านหลัง ความละเอียด 3.2 ล้าน และรองรับ microSD สูงสุด 32GB
วิเคราะห์เปรียบเทียบคุณสมบัติของ Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi)

สำหรับสเปคเครื่องจากตารางที่ผ่านมา คงจะเห็นแล้วว่าทาง Asus Google Nexus 7 จะมีภาษีที่ดีกว่ามากอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น ซีพียูระดับ Quad-Core หรือจะเป็นความจุของหน่วยความจำสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลที่มีให้เลือกมากกว่า (8GB กับ 16GB) รวมไปจนถึงความละเอียดของกล้องด้านหน้าที่ทาง Asus Google Nexus 7 ให้มาที่ 1.2 ล้านพิกเซล เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ทาง Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ก็ไม่ได้ด้อยไปซะทุกเรื่อง เพราะหลายอย่างที่ทาง Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) มีเหนือ Asus Google Nexus 7 นั้นก็น่าสนใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น กล้องด้านหลังที่ทาง Samsung ใส่มาให้กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ที่ 3.2 ล้านพิกเซล และสามารถรองรับการเพิ่ม microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 32GB เลยทีเดียว ที่สำคัญ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ยังมีตัวเครื่องที่บางกว่า Asus Google Nexus 7 อยู่ 0.41 มิลลิเมตร
เปรียบเทียบราคาจำหน่ายของ Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi)

มาพูดถึงราคากันบ้าง สำหรับราคาที่ทาง Asus Google Nexus 7 ของต่างประเทศจะเคาะราคาที่ประมาณ 6,000 บาท สำหรับรุ่น 8GB และในรุ่น 16GB จะสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 7,500 บาท (ราคาจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่แน่นอน แต่คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 7,000-8,000 บาท สำหรับรุ่น 8GB และ 8,000-9,000 บาท สำหรับรุ่น 16GB) ส่วนทาง Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ก็เปิดราคามาที่ 8,900 บาท (ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย) ซึ่งเมื่อมองเปรียบเทียบสเปคเครื่องจากทั้ง 2 รุ่น และหันกลับมามองที่ราคาแล้ว บอกได้เลยว่า Asus Google Nexus 7 คุ้มค่ากว่ามาก
เปรียบเทียบวัสดุของ Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi)

ก่อนอื่นต้องบอกว่าทั้ง 2 รุ่นยังไม่สามารถนำวัสดุมาเปรียบเทียบได้ทั้งหมด เนื่องจากทาง Asus Google Nexus 7 ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย นั่นเอง สำหรับวัสดุของ Asus Google Nexus 7 ได้มีการนำโลหะเข้ามาเป็นวัสดุส่วนประกอบ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวเครื่อง และฝาหลังยังหุ้มด้วยยางเพื่อการถือได้ถนัดมากยิ่งขึ้น และป้องกันรอยขีดข่วนได้อีกด้วย ส่วนทางด้าน Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) วัสดุของตัวเครื่องทำมาจากพลาสติก และเคลือบสีคล้ายกับโลหะ แต่ตัวเครื่องก็มีความแข็งแรงเช่นกัน
เปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi)

สำหรับข้อมูลของระบบปฏิบัติการจากตารางด้านบน คงจะเห็นแล้วว่าทาง Asus Google Nexus 7 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.1 (Jelly Bean) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของ Android ส่วนทางด้าน Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.0 (Ice Cream Sanwich) ซึ่งถ้ามองความเป็นจริง ทาง Asus Google Nexus 7 จะมีภาษีดีกว่ามาก เพราะถ้าเมื่อใดที่ทาง Google มีการปรับปรุงเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการใหม่ ทางด้าน Asus Google Nexus 7 ก็จะได้รับการอัพเดทก่อนแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ อย่างแน่นอน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหา หรือจุดบกพร่องต่างๆ ในการใช้งาน อีกด้วย
เปรียบเทียบศูนย์บริการ หรือบริการหลังการขายของ Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi)

สำหรับเรื่องของการเปรียบเทียบศูนย์บริการ หรือบริการหลังการขายของทั้ง 2 รุ่น ก็น่าจะได้รับการบริการที่ดีไม่แตกต่างกัน แต่ ณ เวลานี้ ทางด้าน Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) จะสะดวกสบายกว่าตรงที่มีการจัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมด้วยการรับประกันตัวเครื่องต่างๆ ที่ติดมาพร้อมตั้งแต่ซื้อกลับบ้าน แต่ทางด้าน Asus Google Nexus 7 นั้นยังไม่มีการจัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ดังนั้นสำหรับคนที่ซื้อเครื่องนอกมาใช้งานแล้วเกิดเครื่องมีปัญหา คงจะต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายในซ่อมเครื่องเองไปตามระเบียบ
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับบทความเปรียบเทียบแท็บเล็ต Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู่อ่านไม่มากก็น้อย สำหรับ Asus Google Nexus 7 กับ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ก็มีประโยชน์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น คนที่ชอบ ดูหนังระดับ Full HD ขอแนะ Asus Google Nexus 7 เพราะ Asus Google Nexus 7 มาพร้อมกับความละเอียดหน้าจอและซีพียู ที่สามารถตอบสนองด้านนี้ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคที่สามารถเล่นเกมระดับ 3D ได้อย่างเร้าใจ ส่วนทางด้าน Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) ก็ไม่ได้น้อยหน้า สามารถดูหนังระดับ HD และเล่นเกมได้ดีไม่แพ้กัน และยังมีกล้องด้านหลังสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป ทางด้าน Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) จะตอบสนองได้ดีกว่า Asus Google Nexus 7 ที่ไม่มีกล้องด้านหลัง แต่ Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) อาจจะด้อยกว่าตรงที่เมื่อมีแอพพลิเคชั่นหรือเกมที่ทำออกมาสำหรับซีพียูระดับ Quad-Core เจ้า Samsung Galaxy Tab 2 7.0 (WiFi) อาจจะไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเต็มที่นั่นเอง อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อแท็บเล็ตสักรุ่นนึง จะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องนั้นๆ ให้มากที่สุด เพื่อให้ได้แท็บเล็ตที่ถูกใจ ไว้ใช้งานไปกับเราได้นานๆ จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปแบบไม่คุ้มค่า และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ อยู่ที่ดุลพินิจความชอบส่วนบุคคลด้วย ใครชอบรุ่นไหน ก็จัดไปได้เลย สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามกันจนถึงช่วงสุดท้ายของบทความ พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีครับ
บทความโดย : Notebookfocus.com