ก่อนหน้าไม่นานมานี้ RIM โดนโจมตีอย่างหนัก
ในเรื่องของความไม่สมบูรณ์ของ BlackBerry
Playbook แท็บเล็ตน้องใหม่ขนาด 7 นิ้ว ที่ไม่มีฟังก์ชั่น E-mail, Contacts,
Calendar และอื่นๆ จึงทำให้ co-CEO ของทาง RIM ถึงกับต้องมาเอ่ยปากว่า
จะทำการอัพเกรดให้ภายใน 60 วัน นับจากวันที่ BlackBerry
Playbook เปิดตัว แต่จริงๆ แล้ว จุดประสงค์ของ BlackBerry
Playbook ที่ทาง RIM ต้องการให้เป็นก็คือ BlackBerry
Playbook นั้น มีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า BlackBerry Bridge
ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ BlackBerry ผ่านทางบลูทูธ เพื่อแชร์ข้อมูลต่างๆ
ได้เลย ซึ่งจุดนี้ บางทีคนที่ไม่เคยใช้ BlackBerry มาก่อน อาจจะไม่เข้าใจครับ
จึงได้มองว่า BlackBerry
Playbook นั้น ไม่สมประกอบ
ก่อนหน้านั้น ทางเครือข่าย AT&T
ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแอนตี้โปรแกรม BlackBerry Bridge ถึงขนาดทำการบล็อคแอพฯ
BlackBerry Bridge เลยทีเดียว ประเด็นที่คาดกันว่า ทำไม AT&T
ถึงทำการบล็อคแอพฯ BlackBerry Bridge ก็เป็นเพราะ BlackBerry Bridge นั้นสามารถแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากโทรศัพท์มือถือ
BlackBerry ไปยัง BlackBerry
Playbook ได้ฟรี ซึ่งทำให้ทาง AT&T ขาดรายได้ตรงส่วนนั้นไป
ณ จุดนี้ ผมเลยอยากจะแชร์ให้เห็นถึงความสามารถและประโยชน์ของแอพฯ BlackBerry
Bridge ให้ได้ฟังกันครับ มาดูกันว่า ฟังก์ชั่นที่อยู่บน BlackBerry Bridge นั้น
มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง
เกริ่นกันอีกซักรอบครับว่า BlackBerry Bridge เป็น App ที่ทำการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือ
BlackBerry กับ BlackBerry
Playbook เพื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวของเราที่อยู่บน โทรศัพท์มือถือ BlackBerry
ลงบน BlackBerry
Playbook เมื่อเราทำการ Install BlackBerry Bridge ลงบน BlackBerry
Playbook แล้ว ทั้ง โทรศัพท์มือถือ BlackBerry และ BlackBerry
Playbook จะทำการจับคู่กันผ่านทางบลูทูธ ซึ่งหน้า Homescreen บน BlackBerry
Playbook จะมีไอคอนที่ชื่อว่า BlackBerry Bridge ปรากฎอยู่ (ดังรูป) ถ้าหากทั้ง
2 เครื่อง Disconnect กันแล้ว ไอคอนนี้จะเปลี่ยนเป็นสีเทาครับ

ถามว่า ณ จุดนี้ BlackBerry Bridge ดีอย่างไร
คำตอบก็คือ ถ้าหากเราทำการ Disconnect แล้ว ข้อมูลทุกอย่างที่เราแชร์จาก
โทรศัพท์มือถือ BlackBerry ก็จะไม่สามารถอ่านได้ นั่นหมายความว่า ถ้าหากคนอื่นยืม BlackBerry Playbook ของเราไปอ่าน จะไม่สามารถแอบอ่านอีเมล์ของเรา หรือเช็ค BBM
หรือความลับต่างๆ ของเราได้ เนื่องจากไม่ได้แชร์อยู่นั่นเองครับ
หลายคนถามว่า อ้าว แล้วถ้าเราอยากได้ BlackBerry
Playbook แต่ดันไม่มี โทรศัพท์มือถือ BlackBerry แล้ว BlackBerry Bridge
จะทำอะไรได้บ้าง?? ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับว่า BlackBerry
Playbook เป็นของที่ออกมาคู่กันกับ โทรศัพท์มือถือ BlackBerry แต่ คนที่ไม่ได้ใช้ โทรศัพท์มือถือ BlackBerry
ก็สามารถใช้ BlackBerry Playbook ได้นะครับ เพียงแต่ว่า จะไม่สามารถเช็คอีเมล์,
เมสเสจ หรือข้อความทั้งหลายแหล่ได้โดยผ่าน BlackBerry Bridge นั่นเอง ด้วยเหตุนี้
ทาง co-CEO เค้าถึงได้ออกมาบอกไงครับว่า จะทำการเพิ่มฟังก์ชั่น E-mail, Contacts,
Calendar และอีกหลายอย่างให้ครับ เวลาเช็คอีเมล์ ก็ต้องเช็คผ่านบราวเซอร์ตามปกติ
ไม่ได้มี App อะไรพิเศษให้
ได้ทราบความสามารถของแอพฯ BlackBerry Bridge
กันไปบ้างแล้ว หวังว่าคงจะทำให้แท็บเล็ตน้องใหม่อย่าง BlackBerry
Playbook ดูมีอะไรที่พิเศษกว่าแท็บเล็ตอื่นๆ บ้าง ถึงแม้ว่า
จะยังไม่สามารถแข่งสู้กับ iPad ได้
เนื่องจากออกมาก่อน และเชี่ยวชาญทางด้านนี้มากกว่า แต่ก็คิดว่า BlackBerry
Playbook จะเป็นแท็บเล็ตที่นำทางให้ RIM หาสิ่งใหม่ๆ
มาพัฒนาและปรับปรุงแท็บเล็ตให้ดียิ่งขึ้นครับ ส่วนในประเทศไทย คาดว่าจะนำ BlackBerry
Playbook มาจำหน่ายในเร็วๆ นี้แน่นอน คนที่เฝ้ารอ BlackBerry
Playbook ต้องห้ามพลาดครับ
ที่มา : techmoblog.com